Author: Alice Lopez

ปัจจุบันนี้พบว่าคนไทยจำนวนมากมีอาการสมาธิสั้นเกิดขึ้น โดยเฉพาะในเด็กที่อยู่ในวัยเรียน ซึ่งอาการสมาธิสั้นที่เกิดขึ้น เนื่องจากการเลี้ยงดูที่ขาดความใส่ใจและการเทคโนโลยีที่ทำให้เด็กไม่ต้องสนอง อย่างโทรทัศน์หรือมือถือเข้ามาช่วยเด็กหยุดนิ่ง ซึ่งการที่เด็กหยุดนิ่งจะทำให้คนเลี้ยงเหนื่อยน้อยลงและมีเวลาในการทำสิ่งอื่นมากขึ้น แต่ว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้เด็กมีอาการสมาธิสั้นไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ทำ มีอารมณ์แปรปรวน มีความก้าวร้าว รอคอยไม่เป็น เอาแต่ใจ ซึ่งอาการในเด็กแต่ละคนจะมีลักษณะที่ต่างกัน ซึ่งเมื่อโตขึ้นไปเด็กจะเข้าสังคมได้ยาก เนื่องจากไม่สามารถปรับตัวเข้ากับคนอื่นในสังคม เกิดความแปลกแยก จึงนับว่าอาการสมาธิสั้นเป็นอาการที่ส่งผลเสียต่อเด็กมาก วันนี้เราจึงมีวิธีที่ช่วยลดอาการสมาธิสั้นด้วยงานศิลปะ             งานศิลปะเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัยไม่เว้นแม้แต่เด็ก ดังนั้นหากเด็กมีอาการสมาธิสั้นเกิดขึ้นสามารถลดอาการสมาธิสั้นที่เป็นอยู่ให้น้อยลงและหายได้ในที่สุด ด้วยการให้เด็กทำงานศิลปะด้วย การวาดภาพ การระบายสี งานประดิษฐ์ของเล่นต่าง ๆ การที่งานศิลปะสามารถช่วยลดอาการสมาธิสั้นได้ เนื่องจากในขณะที่เด็กทำงานอยู่นั้น เด็กจะมีความจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ มีความพยายามที่จะควบคุมกล้ามเนื้อในการขยับนิ้ว ขยับมือ แขนขาให้มีการเคลื่อนไหวไปตามที่ต้องการ โดยที่ตัวเด็กเองไม่รู้สึกว่าโดนบังคับ เพราะเด็กรู้สึกอยากที่จะทำเองจึงเป็นการกระตุ้นพัฒนาการทางด้านร่างกายร่วมด้วย และในระหว่างที่ทำงานอยู่นั้น เด็กจะมีจินตนาการในการออกแบบภาพว่าต้องเพิ่มเติมหรือระบายสีอะไรจึงจะออกมาได้อย่างใจ ซึ่งในขณะที่เด็กกำลังกิจกรรมอยู่นั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าวด้วยจะเป็นการดี เพราะเป็นการสร้างสายสัมพันธ์และเพิ่มเวลาในการเล่นให้มากขึ้น ทำให้เด็กมีสมาธิและความสนใจในสิ่งที่ทอยู่ได้นานขึ้น ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยลดอาการสมาธิสั้นที่เป็นอยู่ให้น้อยลง และหากทำติดต่อกันเป็นเวลานานอาการสมาธิสั้นที่เป็นอยู่จะหายไปโดยที่ไม่จำเป็นต้องกินยาเพื่อรักษา             อาการสมาธิสั้นถึงแม้ว่าจะเป็นอาการที่สามารถรักษาด้วยการให้ศิลปะหรือดนตรีในการรักษาให้หายได้ในกรณีที่มีอาการไม่มาก หรือหากมีอาการมากก็มียารักษา แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังกล่าวกับเด็ก ด้วยการไม่เลี้ยงเด็กด้วยมือถือหรือโทรทัศน์ แต่เลี้ยงด้วยความใส่ใจอย่างแท้จริงจากพ่อและแม่

Read More

ปัจจุบันนี้พบว่าคนในสังคมมีความเครียดเพิ่มขึ้นและมีความสุขน้อยลง ทั้ง ๆ ที่ชีวิตความเป็นอยู่ในยุคนี้มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่มากขึ้น ทั้งเครื่องใช้ในครัวเรือน พาหนะในการเดินทาง อาหารที่มีความรสชาติ คุณภาพและสีสันที่สวยงามขึ้น แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้ล้วนต้องแลกด้วยเงินที่หามาจากน้ำพักน้ำแรง และทุกวันนี้คนส่วนมากให้ความสนใจกับสิ่งของที่อยู่นอกกาย ภาพลักษณ์ที่ต้องดูดีในสายตาคนอื่น มีความอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่น จึงทำให้เกิดความเครียดเมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งความเครียดนี้จะนำมาซึ่งโรคร้ายต่าง ๆ ที่เป็นอันตราถึงชีวิตได้ ดังนั้นการบำบัดความเครียดที่เกิดขึ้นจะช่วยให้สุขภาพจิตแข็งแรง ส่งผลให้สุขภาพกายดีขึ้น ซึ่งวันนี้เรามีช่องทางที่จะช่วยในการบำบัดความเครียดได้ นั่นคือ การทำงานศิลปะ             งานศิลปะเป็นงานที่ต้องลงมือทำด้วยตนเองและงานศิลปะเป็นสิ่งที่สวยงาม งานศิลปะสามารถที่จะบำบัดความเครียดได้ เนื่องจากในขณะที่เราทำงานศิลปะอยู่นั้น จิตใจของเราจะจดจ่ออยู่ที่ตัวงานที่ทำอยู่ ทำให้จิตมีสมาธิไม่ฟุ้งซ่านไปคิดเรื่องที่ทำให้เกิดความเครียด ไม่รู้สึกอิจฉาอยากได้อย่างมีเหมือนที่คนอื่นเขามีกัน การที่จิตใจจดจ่อกับงานศิลปะที่อยู่ตรงหน้า เป็นการดึงจิตกลับเข้ามาสู่บ้านที่แท้จริงของจิต นั่นคือ ภายในตัวของเรา เพราะในขณะที่ทำงานศิลปะจะต้องมีการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย เพื่อทำผลงานที่ออกมาได้ตามใจนึก ซึ่งศิลปะที่ช่วยบำบัดความเครียดจะเป็นอะไรก็ได้ที่ตัวเราชอบและอยากที่จะทำ ทำแล้วรู้สึกสบายใจ โดยที่งานดังกล่าวไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่สวยงาม งานที่เป็นที่ยอมรับของผู้อื่น เพราะงานที่ทำออกมาเป็นงานที่ตัวเราอย่างทำ บางครั้งการนั่งขีด ๆ เขียน ๆ หรือระบายสีไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่มีจุดหมายว่าภาพที่ระบายอยู่นั้นจะออกมาเป็นภาพอะไร ก็สามารถช่วยบำบัดความเครียดได้ เนื่องจากในขณะที่ทำการระบายสี เราได้รู้สึกปลอดปล่อย ได้ทำตามใจ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องอยู่ในกฎระเบียบหรือข้อบังคับใดจึงทำให้รู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ             ดังนั้นสำหรับท่านที่รู้สึกว่าตนเองมีความเครียดเกิดขึ้น…

Read More